การท่องเที่ยวทางรถไฟที่มหัศจรรย์และสนุกสนานด้วยรถไฟ D&S Trains ของ JR Kyushu : ฉบับเส้นทางเลียบฝั่งทะเล

คุณเคยนั่งรถไฟท่องเที่ยว(観光列車 kanko ressha) มาก่อนไหม? เมื่อคุณนึกถึงรถไฟในประเทศญี่ปุ่น บางทีสิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในใจก็คือ ชินคันเซน (新幹線 bullet trains) รถไฟความเร็วสูงที่มีเทคโนโลยีชั้นสูง แต่ครั้งหน้าที่คุณมาเยือนญี่ปุ่น นอกจากจะเป็นหนึ่งในรูปแบบการเดินทางขนส่งแล้ว การนั่งรถไฟยังเป็นการท่องเที่ยวไปในตัวด้วย เป็นทั้งประสบการณ์และส่วนหนึ่งของแผนการท่องเที่ยวที่พวกเราจำนวนมากตั้งตาคอย
ในเกาะใต้ของประเทศญี่ปุ่น เกาะคิวชู (Kyushu 九州) บริษัทรถไฟ JR Kyushu มีรถไฟท่องเที่ยวหลากแบบที่เป็นที่รู้จักกันในนาม รถไฟที่มีการออกแบบและเรื่องราว “D&S Trains” (Design & Story Trains) ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อพาผู้โดยสารไปพบกับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ลืมไม่ลงของคิวชู
รถไฟที่จะแนะนำในบทความชุดนี้ (เครดิตภาพ: Carissa Loh)
อย่างที่ชื่อได้บอกเอาไว้แล้ว แต่ละรถไฟ D&S Train มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองและเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลัง และตั้งใจที่จะพาผู้โดยสารไปในการนั่งรถไฟที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานเพื่อเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยจนคุณหยุดลืมหายใจของคิวชู รถไฟ D&S Train มีการออกแบบภายนอกและภายในที่สวยงามและมีลักษณะเฉพาะและด้วยลักษณะพิเศษบนรถไฟจะสร้างการเดินทางที่น่าจดใจ!
ในตอนแรกของบทความชุดนี้ที่มีสองตอน เราจะแนะนำรถไฟ D&S Train 3 ขบวนที่วิ่งบนเส้นทางเลียบฝั่งทะเล แนะนำเรื่องราวที่น่าสนใจเบื้องหลังรถไฟ และแนะนำบางวิวทิวทัศน์ที่น่าทึ่งและแหล่งท่องเที่ยวที่คุณสามารถสนุกเพลิดเพลินไปได้ คุณพร้อมสำหรับการเดินทางด้วยรถไฟที่มหัศจรรย์และสนุกสนานแล้วหรือยัง? ไปกันเลย~
① A-TRAIN: เพลิดเพลินไปกับการนั่งรถไฟที่สวยงามทันสมัยและหวนนึกถึงวันเก่าๆอันสุขสันต์
เส้นทาง: สถานี Kumamoto (熊本駅) ↔ สถานี Misumi (三角駅) บนเส้นทางรถไฟสาย Amakusa Misumi Line
A-TRAIN (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
คุณเคยฟังเพลงแจ๊ส “Take the A Train” ไหม? รถไฟ D&S Train ขบวนแรกที่เราจะแนะนำคือ A-TRAIN (A列車で行こう E-ressha de iko) ซึ่งตั้งชื่อตามเพลงแจ๊สชื่อดังเพลงนี้ ไม่ต้องกังวลแม้ว่าคุณจะยังไม่ได้ฟังเพลงนี้มาก่อน เมื่อจบการนั่งรถไฟนี้ ท่องทำนองและเพลงนี้จะเข้าไปติดในหัวของคุณเพราะว่ามีการเล่นเพลงนี้เป็นพื้นหลังตลอดการเดินทาง 40 นาที
ตื่นตาตื่นใจไปกับการตกแต่งภายนอกด้วยสีดำและสีทองของรถไฟ A-TRAIN (เครดิตภาพ: Carissa Loh)
วิ่งบนสายรถไฟ Amakusa Misumi Line (あまくさみすみ線) ระหว่างสถานี Kumamoto (熊本駅) กับสถานี Misumi (三角駅) ในจังหวัดคุมาโมโตะ A-TRAIN อวดโฉมด้วยการตกแต่งภายนอกด้วยสีดำและสีทอง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมยุโรปในยุคสำรวจ / ช่วงการค้านันบัง (Nanban Trade Period) ในศตวรรษที่ 16 หลังจากลงจากรถไฟ อะมะคุสะ (Amakusa 天草) สามารถไปถึงได้โดยเรือเฟอร์รี่จากสถานีปลายทางสถานี Misumi ซึ่งอะมะคุสะเป็นหนึ่งในสถานที่แรกๆในประเทศญี่ปุ่นที่ศาสนาคริสต์เข้ามาเมื่อชาวยุโรปเดินทางมาถึงท่าเรือ
บาร์ A-TRAIN BAR ที่ตู้ 1 ของรถไฟ (เครดิตภาพ: Carissa Loh and JR Kyushu)
TRAIN ถูกสร้างขึ้นมาโดยคำนึงถึงผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ เพื่อที่จะให้พวกเขาหวนนึกถึงวันเก่าๆอันสุขสันต์ การตกแต่งย้อนยุคที่ตู้ 1 ทำให้คุณนึกถึงฉากหนังในอดีต ไม่ใช่หรือ? ในรถไฟขบวนนี้คุณจะพบกับ A-TRAIN BAR บาร์ที่คุณสามารถซื้อเครื่องดื่มและของกินเล่นหรือของฝากสำหรับการท่องเที่ยวของคุณ
สนุกเพลิดเพลินไปกับไฮบอล (วิสกี้หรือเหล้าผสมน้ำโซดา) พิเศษ ขณะจ้องมองไปยังวิวทิวทัศน์ชายฝั่งทะเล (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
เครื่องดื่มขึ้นชื่อของบาร์ A-TRAIN BAR ที่คุณต้องลองคือ ไฮบอล (530เยน) ที่ทำจากผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เดะโคะปง (dekopon デコポン) ส้มชนิดหนึ่งจากคุมาโมโตะ และจะมีอะไรดีไปกว่าการเพลิดเพลินวิวที่ผ่านไปด้วยการจิบเครื่องดื่มและมองไปข้างนอกกระจกกว้าง? ด้วยแสงอ่อนๆที่ส่องผ่านหน้าต่างกระจกสีและด้วยวิวทิวทัศน์อันมหัศจรรย์ของน้ำทะเลที่ระยิบระยับราวกับอัญมณีแซฟไฟร์ของทะเลอะริอะเคะ เพียงแค่นั่งลง ผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับการนั่งรถไฟ
พระอาทิตย์ตกที่ชายฝั่งโอโคชิคิ (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
เมื่อพูดถึงวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ให้จับตามองชายฝั่งโอโคชิคิ (御輿来海岸 Okoshiki-kaigan) ใกล้กับสถานี Oda ที่ชายฝั่งโอโคชิคิมีความต่างระดับของน้ำขึ้นน้ำลงมาก ทำให้เกิดลายสวยงามบนชายหาดทรายเนื่องจากผลของลมและคลื่น
เมื่อสภาพอากาศพอเหมาะ ที่ลุ่มราบน้ำขึ้นถึงนี้จะเปลี่ยนเป็นสีส้มยามพระอาทิตย์ตก เป็นสีม่วงในช่วงเวลาหลังจากพระอาทิตย์ตกหรือก่อนฟ้าสาง เป็นสีเงินระหว่างเวลากลางวัน และเป็นสีทองในช่วงเวลาพระจันทร์เต็มดวง ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมพระอาทิตย์ตกก็คือระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน เมื่อที่ลุ่มราบน้ำขึ้นถึงถูกประดับประดาอย่างสวยงาม
การตกแต่งภายในด้วยไม้และการเน้นด้วยกระจกสี (เครดิตภาพ: Carissa Loh and JR Kyushu)
รถไฟ A-TRAIN มีการตกแต่งภายในด้วยไม้อย่างทันสมัย การเน้นด้วยกระจกสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโบสถ์จำนวนมากในอะมะคุสะ ผ้าคลุมที่นั่งถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยลายคลาสสิคและมีที่นั่งหลากแบบตั้งแต่ที่นั่งธรรมดา ที่นั่งเป็นกลุ่มที่มีโต๊ะพับได้อยู่ตรงกลาง ไปจนถึงที่นั่งโซฟากว้างและที่นั่งหันหน้าออกหน้าต่าง
ของฝากสำหรับการเดินทางของคุณ (เครดิตภาพ: Carissa Loh and JR Kyushu)
การนั่งรถไฟ A-TRAIN ไปการผ่อนคลายมากซึ่งจบลงก่อนคุณจะรู้ตัว แต่ก่อนที่คุณจะลงจากรถไฟ ซื้อของที่ทำให้ระลึกถึงการเดินทางของคุณละเป็นอย่างไรบ้าง? คุณสามารถเข้าไปขอพนักงานต้อนรับที่เป็นมิตรและกำลังถือกระดานถ่ายภาพอยู่ เพื่อให้ช่วยคุณถ่ายรูปที่ระลึกหรือประทับตราลงบนโปสการ์ดที่ระลึก และยังมีสินค้าธีมรถไฟ A-TRAIN ขายด้วยเช่น เข็มกลัดที่ประดับเป็นเครื่องหมาย กระดาษกาวน่ารักๆ แฟ้มพลาสติค ผ้าขนหนูและอื่นๆอีกมากมาย
สถานี Misumi (เครดิตภาพ: Carissa Loh)
ด้วยการตกแต่งภายในอันหรูหรา ทำให้การนั่งรถไฟ A-TRAIN เป็นได้ทั้งแหล่งท่องเที่ยวและจุดหมายปลายทาง แต่รอก่อน การเดินทางท่องเที่ยวยังไม่สิ้นสุด เพื่อเหมาะกับ A-TRAIN สถานี Misumi สถานีปลายทางก็ได้ถูกปรับปรุงและตกแต่งในสไตล์ยุโรปใต้ด้วยเพดานสูงและการตกแต่งด้วยไม้ บนตึกสถานีมีสัญลักษณ์ไม้กางเขนซึ่งเหมาะอย่างสมบูรณ์แบบกับอะมะคุสะที่ซึ่งมีโบสถ์มากมาย
จากสถานี Misumi เดินเพียง 2 นาทีก็จะถึงท่าเรือ Misumi ที่ซึ่งคุณสามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ 20 นาทีไปยังอะมะคุสะ เรือสาย Amakusa Takarajima Line (天草宝島ライン) เดินเรือตามกันไปกับรถไฟ A-TRAIN ดังนั้นเวลาออกเรือจึงเหมาะพอดีกับเวลาถึงและเวลาออกของรถไฟ A-TRAIN หากคุณมองเรืออย่างละเอียดแล้ว คุณจะสังเกตุเห็นว่าเรือมีลายประดับตกแต่งซึ่งเข้ากันกับการตกแต่งและสีของรถไฟ A-TRAIN
การชมโลมา
การไปชมโลมาที่อะมะคุสะ (เครดิตภาพ: 熊本県観光連盟)
หลังจากที่ถึงอะมะคุสะ ณ ท่าเรือ Matsushima (Maejima) (松島(前島)港) ไปนั่งเรือชมโลมากันไหม? เรือชมโลมาที่มีระยะเวลาล่องเรือ 2 ชั่วโมงนี้เปิดทำการทุกวันตลอดทั้งปีและมีโอกาสเจอโลมาถึง 98% โลมาปากขวดอินโดแปซิฟิกนั่นฉลาดและเป็นมิตรอาศัยอยู่ในน่านน้ำรอบๆอะมะคุสะ และคุณสามารถเห็นพวกมันกระโดดและเล่นไปในน้ำ และบางครั้งพวกมันก็ว่ายคู่ไปกับเรือด้วย
อะมะคุสะ
โบสถ์คาทอลิกโอเอะ และพิพิธภัณฑ์อะมะคุสะโรสาริโอ (เครดิตภาพ: 熊本県観光連盟)
อะมะคุสะประกอบไปด้วยเกาะมากกว่า 1,000 เกาะ มีโบสถ์มากมายหลากหลาย พิพิธภัณฑ์ และสถานที่จาริกแสวงบุญของชาวคริสต์เตียน ในปี 2018 หมู่บ้านสาคิทซึ Sakitsu Village (天草の﨑津集落 Amakusa no Sakitsu shuraku) ได้ถูกจดทะเบียนเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกชุมชนคริสเตียนลับในนางาซากิและอะมะคุสะ (Hidden Christian Sites in Nagasaki and Amakusa Region) สถานที่เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นห้ามการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ (ปี 1614-1873) และแสดงถึงการฟื้นฟูชุมชมชาวคริสเตียนหลังจากมีการยกเลิกคำสั่งห้าม
มองไปยังหน้าต่างกระจกสีสันสดใสและการตกแต่งภายในของโบสถ์ คุณจะเห็นถึงจุดที่รถไฟ A-TRAIN ได้แรงบันดาลใจจากหน้าต่างสวยๆของโบสถ์เหล่านี้ นอกจากหน้าต่างกระจกสีแล้ว คุณทราบไหมว่า A-TRAIN มีรูปปั้นพระแม่มารีบนรถไฟด้วย? ลองชมดูถ้าคุณพบเห็นสิ่งเหล่านี้ในครั้งหน้าเมื่อคุณนั่งรถไฟ หรือพยายามหาในภาพของ Google Map ข้างล่างนี้!
ชมภายในรถไฟ A-TRAIN อย่างเสมือนจริง (เครดิตภาพ: Google Maps and JR Kyushu)
รถไฟ A-TRAIN วิ่งเพียง 2-3 รอบไป-กลับต่อวัน และวิ่งส่วนใหญ่ในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ คุณสามารถเช็คเว็บไซต์นี้สำหรับข้อมูลตารางเวลาวิ่งรถไฟ A-TRAIN ได้มากขึ้น รถไฟขาเดียวระหว่างสถานี Kumamoto กับสถานี Misumi ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีและราคา 2,040 เยน แต่จะฟรีถ้าคุณใช้ตั๋วพาส All Kyushu Rail Pass, Northern Kyushu Rail Pass หรือ Southern Kyushu Rail Pass
② IBUSUKI NO TAMATEBAKO: กล่องสมบัติของความอบอุ่นและความตื่นเต้น
เส้นทาง: สถานี Kagoshima-Chuo (鹿児島中央駅) ↔ สถานี Ibusuki (指宿駅) บนรถไฟสาย Ibusuki Makurazaki Line
คุณเป็นผู้ชื่นชอบหลงไหลในออนเซ็นรึเปล่า? ถ้าใช่ นั่งรถไฟ D&S Train ขบวนถัดไปที่ชื่อว่า IBUSUKI NO TAMATEBAKO (指宿のたまて箱) ซึ่งวิ่งบนรถไฟสาย Ibusuki Makurazaki Line (指宿枕崎線) ระหว่างสถานี Kagoshima-Chuo (鹿児島中央駅) กับสถานี Ibusuki (指宿駅) ในจังหวัดคาโกะชิม่า รถไฟขบวนนี้ตั้งชื่อจาก อิบุสุคิ ( Ibusuki) สถานีปลายทางซึ่งมีชื่อเสียงสำหรับออนเซ็นและ tamatebako ซึ่งแปลว่ากล่องสมบัติซึ่งมาจากนิทานพื้นบ้านอุระชิมะทาโร่ (Urashima Taro)
IBUSUKI NO TAMATEBAKO (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
จากนิทานพื้นบ้าน อุระชิมะทาโร่ เป็นชาวประมงผู้ซึ่งถูกเชิญไปยังวังมังกรหลังจากได้ช่วยเหลือเต่าของวัง หลังจากที่ได้อยู่ที่วังมังกร 3 วัน เขาได้รับกล่องสมบัติ (tamatebako) และได้รับคำเตือนว่าห้ามเปิดเด็ดขาด อย่างไรก็ตามเมื่ออุระชิมะทาโร่ได้กลับมาถึงบ้าน เขาพบว่าเวลาได้ผ่านไปอย่างแตกต่างและเป็นเวลากว่าหลายร้อยปี พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตแล้วและไม่มีใครรู้จักเขา ท่ามกลางความสิ้นหวังนั้นอุระชิมะทาโร่ลืมเกี่ยวกับคำเตือนและเปิดกล่องสมบัติ (tamatebako) ซึ่งปล่อยกลุ่มควันสีขาวที่เปลี่ยนเขาให้กลายเป็นคนชราและผมซึ่งเคยดำก็กลายเป็นสีขาว
การตกแต่งภายนอกของ IBUSUKI NO TAMATEBAKO ที่มีเอกลักษณ์เป็นครึ่งดำครึ่งขาว (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
การตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์และแตะตาของรถไฟ IBUSUKI NO TAMATEBAKO นั้นมีการตกแต่งบนพื้นฐานของนิทานพื้นบ้าน ครึ่งหนึ่งของรถไฟเป็นสีดำ และอีกครึ่งหนึ่งเป็นสีขาวเป็นสัญลักษณ์ถึงผมของอุระชิมะทาโร่ที่กลายจากสีดำเป็นสีขาว จับตาดูอีกหนึ่งลักษณะพิเศษซึ่งเป็นเช่นเดียวกับนิทานพื้นบ้านนั่นคือเมื่อประตูรถไฟเปิดออกจะมีหมอกสีขาวถูกปล่อยออกมาและอยู่รอบๆหัวของทุกท่าน!
ลวดลายกล่องสมบัติ Tamatebako (เครดิตภาพ : JR Kyushu)
ลองและสังเกตุดูการตกแต่งด้วยลวดลายกล่องสมบัติ Tamatebako กระจัดกระจายทั่วรถไฟ คุณสามารถค้นพบมันในหลากหลายแบบและดีไซน์ ในที่อย่าง โนะเร็นหรือผ้าม่าน (noren) หน้าต่าง ผนัง ชั้นหนังสือและอีกมาก บ้างครั้งลวดลายกล่องสมบัติจะคู่กับคำว่า IBUTAMA ซึ่งเป็นชื่อเรียกย่อของรถไฟ “IBUSUKI NO TAMATEBAKO”
การตกแต่งภายในที่มีสีสันสดใสของรถไฟ IBUSUKI NO TAMATEBAKO (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
รถไฟ IBUSUKI NO TAMATEBAKO มีการตกแต่งภายในที่มีสีสันสดใส ด้วยการตกแต่งไม้และที่นั่งถูกตกแต่งด้วยผ้าและลายสีสว่างสดใส ที่นั่งจำนวนมากหันไปทางหน้าต่างเพื่อที่จะให้คุณเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ และรถไฟมีแม้กระทั่งมุมสบายด้วยที่นั่งโซฟาและชั้นหนังสือที่เต็มไปด้วยหนังสือเพื่อให้คุณอ่านและสนุกสนานเพลิดเพลิน
จับจ่ายซื้อของว่างหรือของฝากบนรถไฟ IBUSUKI NO TAMATEBAKO (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
ขณะนั่งรถไฟ คุณต้องไม่พลาดที่จะดื่มน้ำหวานโซดา อิบุสุคิออนเซ็นไซเดอร์ (Ibusuki Onsen Cider 指宿温泉サイダー) เพื่อความสดชื่นซึ่งทำจากน้ำออนเซ็นจากอิบุสุคิออนเซ็น และต้องไม่พลาดพุดดิ้งอิบุทะมะ (Ibutama Pudding いぶたまプリン) แสนอร่อยด้วยเช่นกัน ซึ่งพุดดิ้งทำเป็นสองชั้นคือ คัสตาร์ดและงาดำ
นอกจากอาหารแล้ว คุณก็สามารถซื้อของฝากสำหรับการเดินทางของคุณ ได้แก่ ผ้าขนหนูหรือสายโทรศัพท์มือถือด้วยดีไซน์รถไฟ IBUSUKI NO TAMATEBAKO ผู้โดยสารทุกท่านจะได้รับโปสการ์ดที่ระลึก ดังนั้นห้ามลืมประทับตราพิเศษที่มีเพียงบนรถไฟเท่านั้น
การต้อนรับที่อบอุ่นจากผู้คนท้องถิ่นระหว่างทาง (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
จำนวนผู้คนและสถานที่ที่มากขึ้นเมื่อเดินทางไปตามเส้นทาง รถไฟ IBUSUKI NO TAMATEBAKO เปรียบเสมือนกับกล่องสมบัติที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความตื่นเต้นเมื่อรถไฟนี้เฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีในปีนี้ บางอย่างที่เราตั้งตาคอยอยู่เมื่อนั่งรถไฟขบวนนี้ก็คือ ความมีมิตรไมตรีจิตและการต้อนรับอย่างอบอุ่นโดยผู้คนท้องถิ่น ซึ่งมีตั้งแต่เจ้าหน้าที่ของเมืองที่คอยโบกธงสีเหลืองสดใสไปจนถึงนักเรียนมัธยมปลายท้องถิ่นที่โบกมือเวลาที่รถไฟวิ่งผ่าน พลังงานที่อบอุ่นและรอยยิ้มของพวกเขาแน่นอนว่าจะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวของคุณเป็นสิ่งที่ลืมไม่ลง
เกาะซากุระจิม่า
วิวทิวทัศน์ของเกาะซากุระจิม่าเมื่อมองจากหน้าต่างรถไฟ (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
วิ่งเลียบชายฝั่งของอ่าวคาโกะชิม่า หรืออีกชื่อที่เป็นรู้จักกันในชื่อ อ่าวคินโค (錦江湾 Kinko-wan) รถไฟ IBUSUKI NO TAMATEBAKO ได้ให้โอกาสในการชมวิวอันสง่างามของเกาะซากุระจิม่า (Sakurajima 桜島) จากหน้าต่างขนาดใหญ่ของรถไฟ เกาะซากุระจิม่าเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่และเป็นเสมือนตัวแทนของจังหวัดคาโกะชิม่า และเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น มีควันพุ่งออกมาอยู่เรื่อยๆด้วยการปะทุเล็กๆที่เกิดอยู่บ่อยๆ
ถ้าคุณมีเวลา คุณสามารถท่องเที่ยวเยือนเกาะซากุระจิม่าด้วยการนั่งเรือเฟอร์รี่เพียง 15 นาทีจากท่าเรือคาโกะชิม่าซึ่งเดินเพียง 10 นาทีจากสถานี JR Kagoshima (鹿児島駅)
การแช่ออนเซ็นทราย
ออนเซ็นทรายที่อิบุสุคิ (เครดิตภาพ: 九州観光推進機構)
การนั่งรถไฟจากสถานี Kagoshima-Chuo ไปยังสถานี Ibusuki ใช้เวลาเพียง 50 นาที และซึ่งที่คุณต้องลองที่อิบุสุคิคือ ออนเซ็นทรายจากความร้อนใต้พิภพธรรมชาติ (天然砂蒸し温泉 tennen sunamushi onsen) ซึ่งมีลักษณะเป็นทรายที่อบให้ร้อนด้วยน้ำออนเซ็นที่อยู่ใต้ชายฝั่ง
สิ่งที่คุณต้องทำก็คือเพียงใส่ชุดยูกะตะ นอนลงบนทรายและเจ้าหน้าที่จะทำการคลุมตัวคุณด้วยทรายร้อนจนเหลือเพียงหัวของคุณ นอกจากความร้อนแล้วทรายยังทำหน้าที่เหมือนผ้าห่มหนักๆคลุมตัวคุณด้วยความกดดันที่สบายตัวทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วขณะที่แช่ออนเซ็นทราย และเมื่อคุณออกมาร่างกายของคุณจะรู้สึกผ่อนคลายมากและกระปรี้กระเปร่า คุณอาจจะไม่รู้สึกในตอนแรกแต่หลังจากเพียงแค่ 10 นาทีร่างกายของคุณจะเต็มไปด้วยเหงื่อ กล่าวกันว่าออนเซ็นทรายมีประโยชน์ต่อสุขภาพซึ่งมากกว่าออนเซ็นธรรมดาถึง 3-4 เท่า ดังนั้นต้องลองเมื่ออยู่ที่อิบุสุคิ
สถานี Nishi-Oyama
สถานี Nishi-Oyama เป็นสถานีที่อยู่ใต้สุดของ JR (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
เมืองอิบุสุคิตั้งอยู่ใต้สุดของจังหวัดคาโกะชิม่า และเพียงแค่ 20 นาทีนั่งรถไฟจากสถานี Ibusuki ก็จะเป็นสถานี Nishi-Oyama (西大山駅) สถานีใต้สุดของ JR ซึ่งไม่มีอาคารสถานีที่นี่มีเพียงแค่ชานชลา อนุสาวรีย์แสดงถึงว่าเป็นสถานีใต้สุดและที่พักนิดหน่อย อย่างไรก็ตามวิวทิวทัศน์ที่ไม่มีอะไรมาขวางของภูเขาไคมงดาเคะที่มองจากชานชลานั้นสวยงาม
ที่นอกสถานีคุณสามารถพบกับป้ายที่บอกหลากหลายที่ตั้งของจุดเหนือสุด จุดตะวันออกสุด จุดตะวันตกสุดและจุดใต้สุดของสถานี JR คุณทราบหรือไม่ว่าสองจุดแรกอยู่ในฮอกไกโดขณะที่สองจุดหลังอยู่ในคิวชู
และยังมีตู้ไปรษณีย์สีเหลืองแห่งความโชคดีอยู่ด้วย ตู้ไปรษณีย์ในญี่ปุ่นปกติแล้วจะเป็นสีแดง แต่สำหรับตู้นี้เป็นสีเหลืองตามดอกนาโนะฮานะ (nanohana) ซึ่งมีชื่อเสียงในบริเวณนี้ เป็นที่เชื่อกันว่าความสุขจะมาสู่ผู้ที่ส่งจดหมายจากตู้ไปรษณีย์นี้ ดังนั้นต้องไม่ลืมที่จะหย่อนโปสการ์ดหรือจดหมายที่นี่!
ชมภายในรถไฟ IBUSUKI NO TAMATEBAKO อย่างเสมือนจริง (เครดิตภาพ: Google Maps and JR Kyushu)
รถไฟ IBUSUKI NO TAMATEBAKO วิ่ง 2-3 รอบไป-กลับต่อวัน และวิ่งเกือบทุกวัน คุณสามารถเช็คเว็บไซต์นี้สำหรับข้อมูลตารางเวลาวิ่งรถไฟ IBUSUKI NO TAMATEBAKO รถไฟขาเดียวระหว่างสถานี Kagoshima-Chuo กับสถานี Ibusuki ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีและราคา 2,300 เยน แต่จะฟรีถ้าคุณใช้ตั๋วพาส All Kyushu Rail Pass หรือ Southern Kyushu Rail Pass
③ UMISACHI YAMASACHI: สำรวจตำนาน ภูเขาและวิวทิวทัศน์ชายทะเลของมิยาซาคิ
เส้นทาง: สถานี Miyazaki (宮崎駅) ↔ สถานี Nango (南郷駅) บนรถไฟสาย Nichinan Line
รถไฟ D&S Trains 2 ขบวนแรก เราไปนั่งรถไฟผ่านจังหวัดคุมาโมโตะและจังหวัดคาโกะชิม่า เพื่อจบตอนแรกนี้เราจะไปเช็คจังหวัดมิยาซาคิด้วยรถไฟ UMISACHI YAMASACHI (海幸山幸) ซึ่งวิ่งบนเส้นทางรถไฟสาย Nichinan Line ระหว่างสถานี Miyazaki (宮崎駅) และสถานี Nango (南郷駅)
เช่นเดียวกับรถไฟ IBUSUKI NO TAMATEBAKO รถไฟขบวนนี้ก็ได้ชื่อมากจากตำนานพื้นบ้าน ชื่อUMISACHI YAMASACHI แปลตามตัวอักษรได้ว่า พรจากทะเล พรจากภูเขา และจริงตามชื่อ รถไฟขบวนนี้จะพาคุณสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ที่มีเสน่ห์ของทะเลและภูเขา
รถไฟ UMISACHI YAMASACHI (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
รถไฟ UMISACHI YAMASACHI ได้ถูกดัดแปลงตกแต่งจากรถไฟที่เคยใช้วิ่งเป็นรถไฟโทร็อคโคะ คากุระ (Torokko Kagura トロッコ神楽号) ของบริษัทรถไฟ Takachiho Railway ซึ่งก็อยู่ในจังหวัดมิยาซาคิด้วยเช่นกัน เนื่องจากความเสียหายอันรุนแรงสาหัสจากพายุไต้ฝุ่น Nabi ในปี 2005 ทำให้สายรถไฟทั้งสายถูกยกเลิกชั่วคราว JR Kyushu รับช่วงตัวรถไฟภายใต้เงื่อนไขที่ว่าขบวนรถไฟต้องวิ่งในจังหวัดมิยาซาคิ และขบวนรถไฟนี้ก็ได้เกิดใหม่ในปี 2009 เป็นรถไฟ D&S Train ขบวนแรกของมิยาซาคิที่มีชื่อว่า UMISACHI YAMASACHI
การตกแต่งภายนอกรถไฟด้วยการเน้นสีสันลายไม้ (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
สิ่งแรกที่คุณจะสังเกตุเห็นเกี่ยวกับรถไฟ UMISACHI YAMASACHI นั่นก็คือความงามของงานฝีมือที่เน้นสีสันลายไม้บนการตกแต่งภายนอกรถไฟ สนซีดาร์ท้องถิ่นโอบิสุกิ (obisugi 飫肥杉) ได้ถูกใช้ในการนี้ และแม้ว่ารถไฟท่องเที่ยวจำนวนมากจะมีลักษณะพิเศษงานไม้ในการตกแต่งภายใน แต่มันเป็นเรื่องไม่ปกติที่จะเห็นงานไม้ในการตกแต่งภายนอกไม่ใช่หรือ? UMISACHI YAMASACHI เป็นเพียงรถไฟขบวนเดียวที่มีลักษณะพิเศษเช่นนี้ และถูกสร้างภายใต้กรอบความคิด “รถไฟไม้น่ารักที่ดูราวกับว่าออกมาจากกล่องของเล่น”
การตกแต่งภายในที่สวยงามของรถไฟ UMISACHI YAMASACHI (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
เช่นเดียวกับการตกแต่งภายนอก การตกแต่งภายในของรถไฟก็ถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสนซีดาร์ท้องถิ่นโอบิสุกิ (obisugi) ที่นั่งมีโครงร่างหลากหลายรวมไปถึงที่นั่งโซฟากว้างใหญ่ ความสนุกสนานอย่างหนึ่งของการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟก็คือการที่สามารถรู้สึกผ่อนคลาย และคุณสามารถทำอย่างนั้นได้ด้วยที่นั่งที่แสนสะดวกสบายเหล่านี้อย่างแน่นอน ของเล่นดั้งเดิมของมิยาซาคิและของอื่นๆที่เป็นงานฝีมืองานไม้จากสนซีดาร์ท้องถิ่นโอบิสุกิ (obisugi) ได้ถูกนำมาแสดงบนรถไฟ ดังนั้นต้องไม่พลาดที่จะเช็คดูของเหล่านี้
เพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับการเดินทางของคุณ หรือซื้อทานของว่าง (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
บนรถไฟคุณสามารถขอให้พนักงานต้อนรับที่เป็นมิตรช่วยคุณถ่ายรูปที่ระลึกกับแผ่นป้ายถ่ายรูปและหมวกพนักงานรถไฟ ผู้โดยสารทุกคนก็จะได้รับโปสการ์ดที่ระลึกที่ซึ่งคุณสามารถประทับตราด้วยตราพิเศษที่มีเพียงบนรถไฟเท่านั้น
หากคุณหิวหรือกระหาย ต้องแน่ใจว่าได้ลองอาหารพิเศษอร่อยๆของมิยาซาคิ เช่น ขนมชีสมันจู(Cheese Manju チーズ饅頭) น้ำหวานโซดาไซเดอร์มะม่วงมิยาซาคิ (Miyazaki Mango Cider) และเบียร์ฮิเดจิ (Hideji Beer) ซึ่งมีขายบนรถไฟ และคุณก็สามารถซื้อสินค้ารุ่นพิเศษของ UMISACHI YAMASACHI อย่างเช่นผ้าขนหนูและสายโทรศัพท์มือถือ
บนรถไฟมีการเล่าเรื่องตำนาน Umisachi-hiko และ Yamasachi-hiko (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่ารถไฟ UMISACHI YAMASACHI ได้ชื่อมาจากตำนานท้องถิ่นเกี่ยวกับพี่น้องสองคนที่ชื่อ Umisachi-hiko และ Yamasachi-hiko บนรถไฟขาออกซึ่งวิ่งจากสถานี Miyazaki ไปยังสถานี Nango นั้นพนักงานต้อนรับบนรถไฟผู้มีไมตรีจิตจะแสดงแผ่นภาพและเล่าเรื่องเกี่ยวกับตำนาน
ตามตำนานแล้ว พี่ชาย Umisachi-hiko มีเบ็ดพิเศษเพื่อจับปลาหาอาหารจากทะเล ขณะที่น้องชาย Yamasachi-hiko มีคันธนูพิเศษที่สามารถล่าหาอาหารจากภูเขา วันหนึ่งน้องชาย Yamasachi-hiko แนะนำว่าพวกเขาควรลองเปลี่ยนและใช้เครื่องมือของอีกคน และพี่ชาย Umisachi-hiko ก็ตกลงด้วย
อย่างไรก็ตามขณะที่ออกไปในทะเล น้องชาย Yamasachi-hiko ได้ทำเบ็ดตกปลาของพี่ชายหาย พี่ชาย Umisachi-hiko ไม่ยอมรับของทดแทนและบอกให้น้องชายออกไปตามหาและนำมันมาคืน ขณะที่กำลังหาเบ็ด น้องชาย Yamasachi-hiko พบกับลูกสาวของราชาแห่งท้องทะเลที่ชื่อเจ้าหญิง Toyotama-hime ผู้ซึ่งเขาได้แต่งงานด้วย ด้วยความช่วยเหลือของราชาแห่งท้องทะเลทำให้น้องชาย Yamasachi-hiko ได้คืนเบ็ดตกปลาที่หายไปและนำกลับไปคืนพี่ชาย กล่าวกันว่าลูกชายของ Yamasachi-hiko และเจ้าหญิง Toyotama-hime คือพ่อของจักพรรดิจิมมุ (Emperor Jimmu) จักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่น
ศาลเจ้าอาโอชิม่า
กล่าวกันว่าศาลเจ้าอาโอชิม่าเป็นสถานที่มงคลสำหรับการแต่งงาน (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
ระหว่างเส้นทางรถไฟขบวนนี้ สถานที่แนะนำสำหรับคุณเพื่อลงไปเที่ยวก็คือ สถานี Aoshima (青島駅) จากสถานีเดินเพียง 5 นาทีก็จะถึงเกาะอาโอชิม่าที่ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบท่องเที่ยวศาลเจ้าอาโอชิม่า (青島神社 Aoshima Jinja) ศาลเจ้านี้สักการะบูชา Yamasachi-hiko เจ้าหญิงToyotama-hime และเทพเจ้า Shiozutsu-no-Ookami และกล่าวกันว่าจะนำโชคดีสู่คู่แต่งงาน ศาลเจ้าอาโอชิม่าตั้งอยู่กลางเกาะอาโอชิม่าซึ่งล้อมรอบไปด้วยชายฝั่งที่คุณสามารถเห็นปรากฏการณ์พิเศษที่รู้จักกันในชื่อ กระดานซักเสื้อผ้าของยักษ์ (鬼の洗濯版 oni no sentakuita)
กระดานซักเสื้อผ้าของยักษ์ (鬼の洗濯版 oni no sentakuita)
กระดานซักเสื้อผ้าของยักษ์ (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
กระดานซักเสื้อผ้าของยักษ์เป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่ไม่ปกติโดยมีการก่อตัวตลอดช่วงระยะเวลาอันยาวนาน เป็นเวลาปีแล้วปีเล่าคลื่นได้กัดกร่อนทรายตามชายฝั่งเหลือเพียงหินแข็งไว้ เวลาที่สามารถเห็นวิวทิวทัศน์ได้สวยงามที่สุดคือช่วงเวลาน้ำลง แถวตรงสมบูรณ์แบบของหินทรายเหล่านี้อาจจะดูเหมือนเป็นฝีมือคนทำแต่ 100% ก่อตัวโดยธรรมชาติ
นอกจากชมจากเกาะอาโอชิม่าแล้ว คุณก็สามารถมองเห็นรูปแบบของกระดานซักเสื้อผ้าของยักษ์จากที่นั่งอันสะดวกสบายขณะนั่งรถไฟ UMISACHI YAMASACHI บนระยะทาง 8 กิโลเมตรยาวจากชายฝั่งระหว่างเกาะอาโอชิม่ากับเกาะคินชาคุ (Kinchaku) รถไฟวิ่งเลียบชายฝั่งและรถไฟให้วิวทิวทัสน์ที่น่าตื่นเต้นประทับใจของทะเลที่มีสีฟ้าเหมือนท้องฟ้า และกระทั่งรถไฟจะวิ่งช้าลงบริเวณจุดชมวิวเพื่อให้คุณได้สนุกเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ของกระดานซักเสื้อผ้าของยักษ์
เมืองปราสาทโอบิ
ต้นสนซีดาร์โอบิสุกิ (Obisugi) และเมืองปราสาทโอบิ (เครดิตภาพ: 宮崎県観光協会)
อีกสถานที่หนึ่งที่คุณสามารถตรวจสอบท่องเที่ยวได้คือใกล้กับสถานี Obi (飫肥駅) เดินเพียง 20 นาทีจากสถานีก็จะถึงเมืองรอบปราสาทโอบิ (飫肥城下町 Obi-jo shitamachi) ซึ่งเคยรุ่งเรืองจากอุตสาหกรรมไม้ ซึ่งคุณสามารถเดาได้ว่าเป็นไม้สนซีดาร์โอบิ (obisugi) ที่นี่คุณสามารถพบเห็นบ้านซามูไรที่อนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี และเมื่อเดินไปตามถนนจะทำให้คุณรู้สึกราวกับได้ย้อนอดีตไป แม้ว่าปราสาทจะไม่มีอีกแล้วแต่ประตูหน้า (Ote-mon) ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่และเป็นจุดที่เป็นนิยมในการชมซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ
บริเวณพื้นที่ของปราสาทใกล้กับซากป้อมปราสาทหลัก (Honmaru) นั้นมีต้นสนซีดาร์โอบิ (obisugi)อายุกว่า 140 ปีแอบอยู่ที่มุมเงียบบนพื้นมอสส์ที่ดูราวกับพรมสีเขียวเข้ม มองขึ้นไปบนต้นสนซีดาร์ที่สูงและตั้งตรงราวกับจะยืดยาวไปบนท้องฟ้า บรรยากาศช่างเงียบสงบและสงบสุข สถานที่ที่เป็นดั่งขุมทรัพย์นี้มักจะถูกมองข้ามไปจากนักท่องเที่ยว ดังนั้นต้องไม่ลืมที่นี่และไม่ลืมที่จะมาเช็คที่นี่ระหว่างการท่องเที่ยวมาเยือนของคุณ
ชมภายในรถไฟ UMISACHI YAMASACHI อย่างเสมือนจริง (เครดิตภาพ: Google Maps and JR Kyushu)
รถไฟ UMISACHI YAMASACHI วิ่ง 1-2 รอบไป-กลับต่อวัน และวิ่งส่วนใหญ่ในวันหยุดสุดสัปดาห์คุณสามารถเช็คเว็บไซต์นี้สำหรับข้อมูลตารางเวลาวิ่งรถไฟ UMISACHI YAMASACHI รถไฟขาเดียวระหว่างสถานี Miyazaki กับสถานี Nango ใช้เวลาประมาณ 90 นาทีและราคา 2,440 เยน แต่จะฟรีถ้าคุณใช้ตั๋วพาส All Kyushu Rail Pass หรือ Southern Kyushu Rail Pass
การเดินทางไปที่นั่น
ในบรรดารถไฟเหล่านี้ รถไฟอะไรที่คุณสนใจจะท่องเที่ยวไป? รถไฟเหล่านี้ทุกขบวนสามารถนั่งได้ฟรีเมื่อใช้ JR Kyushu Rail Pass ดังนั้นต้องขึ้นรถไฟเหล่านี้เพื่อการนั่งรถไฟที่มหัศจรรย์และสนุกสนานเมื่อคุณอยู่ที่คิวชูครั้งหน้า อย่าลืมเช็คตอนที่สองของบทความชุดนี้ที่ซึ่งเราจะแนะนำรถไฟ 3 ขบวนที่วิ่งผ่านไปในเส้นทางภูเขาและที่ราบสูง
JR Kyushu Rail Pass
ท่องเที่ยวไปรอบคิวชูด้วยตั๋วพาส All Kyushu Rail Pass (เครดิตภาพ: JR Kyushu)
ถ้าคุณจะเที่ยวไปรอบคิวชู เช็ค All Kyushu Rail Pass ตั๋วพาสที่ราคาไม่แพงและสามารถนั่งรถไฟของ JR Kyushu ได้ไม่จำกัดรวมทั้งชินคันเซนในเขตที่กำหนด มี 3 ช่วงเวลาสำหรับตั๋วพาสได้แก่ 3 5 และ 7 วันและราคาตั้งแต่ 17,000 ถึง 20,000 เยน ตั๋วพาสนี้ครอบคลุมรถไฟทั้ง 3 ขบวนที่แนะนำไปแล้วในบทความนี้
ถ้าคุณจะท่องเที่ยวหลักๆในเขตคิวชูเหนือ (ฟุคุโอกะ โออิตะ คุมาโมโตะ นางาซากิ ซากะ) คุณสามารถเลือกตั๋วพาส Northern Kyushu Rail Pass ซึ่งมีแบบ 3 วัน (10,000เยน) หรือแบบ 5 วัน (14,000เยน) ตั๋วพาสนี้ครอบคลุมรถไฟ A-TRAIN แต่ไม่ครอบคลุมรถไฟ IBUSUKI NO TAMATEBAKO และรถไฟ UMISACHI YAMASACHI
ถ้าคุณจะท่องเที่ยวหลักๆในเขตคิวชูใต้ (โออิตะ คุมาโมโตะ มิยาซาคิ คาโกะชิม่า) คุณสามารถเลือกตั๋วพาส Southern Kyushu Rail Pass ซึ่งมีแบบ 3 วัน ที่ราคา 8,000เยน ตั๋วพาสนี้ครอบคลุมรถไฟทั้ง 3 ขบวนที่แนะนำไปแล้วในบทความนี้
ตั๋วพาส All Kyushu Rail Pass Northern Kyushu Rail Pass และ Southern Kyushu Rail pass สามารถใช้ได้กับประตูตรวจตั๋วอัตโนมัติ และสำหรับช่วงเวลาจำกัดนี้ (ถึงเดือนกันยายน 2022) ผู้ที่ถือพาสปอร์ตต่างชาติและอาศัยในญี่ปุ่นก็สามารถใช้ตั๋วพาสเหล่านี้ได้
เครดิตภาพส่วนหัว: JR Kyushu