ออกสำรวจเส้นทางรถไฟที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น!

ผู้คนชอบเดินทางไปญี่ปุ่นด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป แต่เหตุผลหนึ่งในนั้นมักจะเป็นเพราะทัศนียภาพทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง ไม่ว่าในฤดูกาลใดๆ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามมากที่สุดประเทศหนึ่ง ตั้งแต่ภูมิภาคฮอกไกโด (北海道) ทางตอนเหนือ หรือภูมิภาคคิวชู (九州) ทางตอนใต้ แต่รู้หรือไม่?ว่าคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์เหล่านี้ได้จากหน้าต่างของรถไฟที่กำลังวิ่งอยู่ได้เช่นกัน
รถไฟเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 โดยปัจจุบันมีทางรถไฟยาวกว่า 27,000 กิโลเมตรอยู่ทั่วประเทศ และผู้คนใช้รถไฟในการเดินทางและท่องเที่ยวระหว่างเมืองใหญ่และเมืองในชนบทตลอดทั้งปี แต่รถไฟไม่ได้เป็นเพียงพาหนะสำหรับเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นการท่องเที่ยวในตัวมันเองได้ด้วย ซึ่งผู้โดยสารสามารถชมทัศนียภาพของธรรมชาติอันน่าตื่นตาได้จากที่นั่งแสนสบายบนรถไฟ ในขณะที่รถไฟเคลื่อนที่ผ่านแม่น้ำ ช่องเขา และหุบเขา ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างทางยังมีจุดที่เราสามารถถ่ายรูปรถไฟพร้อมฉากหลังสวยๆ มากมาย ซึ่งทำให้การเดินทางไปยังจุดชมวิวเหล่านั้นแสนจะคุ้มค่า
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เส้นทางรถไฟในญี่ปุ่นได้แผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง ซึ่งรถไฟบางสายก็มาพร้อมกับทิวทัศน์พื้นที่รอบๆ โดยทิวทัศน์มากมายแฝงตัวอยู่ในพื้นที่ชนบทห่างไกลจากเมืองใหญ่ที่พลุกพล่าน และผู้โดยสารจำนวนมากดั้นด้นเดินทางไปเพื่อตามหาวิวเหล่านี้ ไม่ว่าจะจากบนรถไฟหรือมองดูจากระยะไกลก็ตาม การได้ชมทิวทัศน์ธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์ควบคู่ไปกับรถไฟนั้นเป็นความรู้สึกพิเศษที่ทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติมากมายตกหลุมรัก และเป็นอะไรที่ทุกคนต้องลองไปสัมผัสด้วยตัวเอง
แผนที่เส้นทางรถไฟชมวิวในญี่ปุ่น (เครติดภาพ: JR Times)
ในบทความนี้ เราจะไปสำรวจเส้นทางรถไฟชมวิวต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น รวมถึงจุดชมวิวที่ผู้โดยสารสามารถพบเจอได้ระหว่างการเดินทาง แต่ละเส้นทางมีทิวทัศน์เป็นเอกลักษณ์ที่ผู้โดยสารสามารถชื่นชมได้อย่างเต็มอิ่ม เส้นทางและจุดชมวิวส่วนใหญ่อยู่ห่างจากสถานที่หลักๆ แต่เพียงแค่วิวอันน่าทึ่งก็คุ้มค่าแก่การเดินทางมาชมด้วยตัวเองแล้ว
พื้นที่ฮอกไกโด
① ทางรถไฟสายหลัก Senmō (釧網本線)
พื้นที่: สถานี JR Abashiri (JR網走駅) ↔ สถานี JR Shiretoko-Shari (JR知床斜里駅)
บริหารโดย: JR Hokkaido
ทางรถไฟสายหลัก Senmō (เครดิตภาพ: Hokkaido Railway Company)
เริ่มต้นการเดินทางของเราด้วยการขึ้นเหนือสุดไปยังฮอกไกโด ที่ซึ่งทางรถไฟตัดเลียบไปตามชายฝั่ง หันหน้าสู่ทะเลโอค็อตสค์ (オホーツク海) ทางรถไฟสายหลัก Senmō บริหารโดย JR Hokkaido โดยอยู่ระหว่างสถานี Abashiri และสถานี Shiretoko-Shari เป็นทางรถไฟที่อยู่ติดทะเลมากๆ ทำให้ผู้โดยสารสามารถชมวิวอันน่าทึ่งในขณะที่เดินทางในเส้นทางนี้ในช่วงฤดูหนาวได้
ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมถึงมีนาคมของทุกปี ก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่จากแม่น้ำอามูร์ในประเทศรัสเซียจะก่อตัวขึ้นและลอยมาสู่ทะเลโอค็อตสค์ ธารน้ำแข็ง (流氷 ryūhyō) นี้จะเห็นได้ตามเมืองชายฝั่งอย่างมงเบ็ตสึ (Monbetsu) และอาบาชิริ (Abashiri) ในฮอกไกโด ซึ่งนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างก็อยากไปชมความอลังการของธารน้ำแข็งที่ปกคลุมผืนทะเลอยู่
ธารน้ำแข็งที่มองเห็นได้จากหน้าต่างรถไฟ (เครดิตภาพ: Hokkaido Railway Company)
วิธีการชมธารน้ำแข็งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการล่องเรือตัดน้ำแข็ง แต่รู้หรือไม่ว่าคุณก็สามารถชมธารน้ำแข็งจากบนรถไฟได้เช่นกัน หากผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถไฟระหว่างสถานี Abashiri และสถานี Shiretoko-Shari โชคดี จะสามารถยืนชมธารน้ำแข็งได้จากหน้าต่างรถไฟในวันที่อากาศดีในช่วงเวลานี้ ซึ่งบอกเลยว่าเป็นภาพที่ไม่ควรพลาดชมอย่างยิ่ง
② ทางรถไฟสาย Hanasaki (花咲線)
พื้นที่: สถานี JR Akkeshi (JR厚岸駅) ↔ สถานี JR Itoizawa (JR糸魚沢駅)
บริหารโดย: JR Hokkaido
ทางรถไฟสาย Hanasaki ที่วิ่งไปตามแม่น้ำเบคันเบอุชิ (เครดิตภาพ: Hokkaido Railway Company)
ทางรถไฟสาย Hanasaki เป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟสายหลัก Nemuro (根室本線) ซึ่งเป็นทางรถไฟเงียบสงบที่แต่ละวันจะมีรถไฟวิ่งผ่านไม่บ่อยนัก อย่างเช่นรถไฟด่วน Nosappu (ノサップ) และ Hanasaki (はなさき) โดย Nosappu จะวิ่งแค่วันละครั้งและ Hanasaki จะวิ่งวันละสองครั้ง นอกจากนี้ยังมีรถไฟท้องถิ่นที่วิ่งทุกๆ 2-3 ชั่วโมง บนทางรถไฟสายนี้ เราจะได้เห็นอีกความสวยงามของธรรมชาติแห่งฮอกไกโด โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง
ลัดเลาะไปตามพื้นที่ชุ่มน้ำเบคันเบอุชิ (เครดิตภาพ: Hokkaido Railway Company)
ระหว่างสถานี JR Akkeshi และสถานี JR Itoizawa รถไฟจะลัดเลาะไปตามฝั่งแม่น้ำเบคันเบอุชิ (別寒辺牛川) และผ่านพื้นที่ชุ่มน้ำเบคันเบอุชิ (別寒辺牛湿原) ซึ่งเป็นหนึ่งในทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงามราวกับภาพวาดมากที่สุดของภูมิภาค แม่น้ำไหลจากทะเลสาบอัคเคชิ (Lake Akkeshi) และสัตว์ป่านานาชนิดก็อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ เช่น นกกระเรียนมงกุฎแดง และกวางเอโสะ
ระหว่างที่เดินทางบนทางรถไฟสาย Hanasaki เพื่อมุ่งหน้าไปยังสุดขอบฝั่งตะวันตกของฮอกไกโด ผู้โดยสารจะรู้สึกราวกับกำลังผจญภัยอยู่การเดินทางก็ว่าได้ อันที่จริง ไหนๆ เราก็เดินทางมาชมความงามของธรรมชาติที่นี่แล้ว ฉันขอแนะนำให้นั่งรถไฟไปจนถึงสถานีรถไฟที่อยู่ทางตะวันออกสุดของญี่ปุ่นเลยค่ะ เพราะมันจะเป็นการเดินทางที่คุ้มค่ามากๆ สำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน
③ ทางรถไฟสายหลัก Hakodate (函館本線)
พื้นที่: สถานี JR Akaigawa (JR赤井川駅) ↔ สถานี JR Ōnuma-Kōen (JR大沼公園駅)
บริหารโดย: JR Hokkaido
ทางรถไฟสายหลัก Hakodate ที่มีภูเขาโคมางาทาเกะเป็นฉากหลัง (เครดิตภาพ: Hokkaido Railway Company)
หนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดฮิตของผู้ที่เดินทางไปฮอกไกโดคือเมืองท่าทางตอนใต้ฮาโกดาเตะ และการเดินทางไปที่นั่นจากเมืองหลวงซัปโปโรที่ได้รับความนิยมก็คือการโดยสารรถไฟด่วนพิเศษโฮคุโตะ (特急北斗 Limited Express Hokuto) ที่วิ่งบนทางรถไฟสายหลัก Hakodate เช่นเดียวกับทางรถไฟสายหลัก Chitose และทางรถไฟสายหลัก Muroran ระหว่างที่เดินทางจากซัปโปโรไปยังฮาโกดาเตะ ก็ต้องห้ามพลาดชมส่วนหนึ่งของเส้นทางที่ผู้โดยสารจะสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวที่สวยงามได้
ขณะที่ผู้โดยสารเดินทางใกล้ถึงใกล้ฮาโกดาเตะ รถไฟจะผ่านอุทยานแห่งชาติโอนุมะ (大沼国定公園 Onuma Qausi-National Park) อันกว้างใหญ่ที่มีทะเลสาบโอนุมะอันสงบนิ่งและผู้เขาโคมากาตาเกะตั้งตระหง่าน ในวันที่อากาศแจ่มใส ผู้โดยสารจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของอุทยานได้จากบนรถไฟขณะขบวนรถที่กำลังเคลื่อนที่ผ่านระหว่างสถานี JR Akaigawa และสถานี JR Ōnuma-Kōen
ทางรถไฟสายหลัก Hakodate ในฤดูหนาว (ซ้าย) และฮอกไกโด โคมากาตาเกะ (ขวา) (เครดิตภาพ: Hokkaido Railway Company)
นี่คือทิวทัศน์ที่ผู้โดยสารจะได้เพลิดเพลินในฤดูกาลต่างๆ ซึ่งจะเปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลาของปี ทิวทัศน์โดยรอบจะเป็นสีเขียวขจีในฤดูร้อน และในฤดูหนาวยอดเขาโคมากาตาเกะจะปกคลุมไปด้วยหิมะ ครั้งหน้าที่คุณเดินทางระหว่างซัปโปโรและฮาโกดาเตะโดยรถไฟ อย่าลืมคอยเฝ้ารอชมวิวในช่วงนี้ของเส้นทางนี้นะคะ
④ ทางรถไฟสาย Furano (富良野線)
พื้นที่: สถานี JR Furano (JR富良野駅) ↔ สถานี JR Biei (JR美瑛駅)
บริหารโดย: JR Hokkaido
ทางรถไฟสาย Furano และภูเขาที่ยอดปกคลุมด้วยหิมะอยู่เบื้องหลัง (เครดิตภาพ: Hokkaido Railway Company)
หากพูดถึงฮอกไกโดในฤดูร้อน จุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากฟุราโนะ เมืองที่มีชื่อเสียงจากทุ่งดอกไม้บานสะพรั่ง ทุกๆ ปี นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจะมาที่นี่เพื่อเพื่อชื่นชมดอกไม้ที่บานไปทั่วทุ่งและเนินเขาในเมือง และหนึ่งในวิธีการเดินทางไปเมืองนี้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในภูมิภาคนี้ก็คือโดยรถไฟนั่นเอง
นักท่องเที่ยวจะขึ้นทางรถไฟสาย Furano เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่อยู่ระหว่างทาง ขณะรถไฟเคลื่อนขบวนไปตามเส้นทาง ผู้โดยสารจะได้เพลิดเพลินไปกับชนบทที่งดงามของฟุราโนะ ทุ่งหญ้าโล่งกว้าง และภูเขาที่อยู่ไกลออกไป ในช่วงระหว่างสถานี JR Furano และสถานี Biei นั้น ผู้โดยสารยังจะได้เห็นทุ่งลาเวนเดอร์และดอกไม้อื่นๆ อยู่ไกลๆ อีกด้วย! เป็นภาพวิวมีชีวิตชีวาที่ทั้งน่าตื่นเต้นและผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน ซึ่งผู้โดยสารจะไม่มีวันลืมทัศนียภาพที่น่าหลงใหลนี้เลย
รถไฟวิ่งผ่านทุ่งลาเวนเดอร์ (เครดิตภาพ: Hokkaido Railway Company)
หากคุณอยากได้บรรยากาศการเดินทางโดยรถไฟในช่วงฤดูร้อนขนานแท้ แนะนำให้ขึ้นรถไฟฟุราโนะ บิเอ โนรกโกะ (Furano Biei Norokko) ซึ่งเป็นรถไฟแบบโอเพ่นแอร์แบบพิเศษที่วิ่งเฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้น รถไฟมีหน้าต่างบานใหญ่ที่สามารถเปิดได้ ทำให้สามารถเพลิดเพลินไปกับวิวนอกหน้าต่างได้อย่างเต็มที่พร้อมรับสายลมฤดูร้อนไปด้วย
พื้นที่ญี่ปุ่นตะวันออก
⑤ ทางรถไฟสาย Gonō (五能線)
พื้นที่: สถานี JR Henashi (JR艫作駅) ↔ สถานี JR Senjōjiki (JR千畳敷駅)
บริหารโดย: JR East
ทิวทัศน์ริมชายฝั่งจากทางรถไฟสาย Gonō (เครดิตภาพ: JR Times / Sue Lynn)
รู้หรือไม่? ทางรถไฟสาย Gonō มักจะถูกกล่าวถึงว่าเป็นทางรถไฟที่มีวิวสวยงามมากที่สุดสายหนึ่งในญี่ปุ่น เส้นทางสายนี้ทอดยาวจากจังหวัดอาคิตะ (秋田県) ไปถึงจังหวัดอาโอโมริ (青森県) โดยมีส่วนหนึ่งของเส้นทางที่วิ่งไปตามชายฝั่งตะวันออกของอาโอโมริ ซึ่งวิวชายฝั่งนี้เองคือทิวทัศน์อันน่าตื่นตาที่ผู้โดยสารควรมาเห็นด้วยตาของตัวเอง
ลองนึกภาพทะเลญี่ปุ่น (日本海) ปรากฏอยู่ตรงหน้าคุณแบบเต็มๆ ตาดูสิคะ นั่นคือภาพที่คุณจะได้เห็นเมื่อนั่งรถไฟระหว่างสถานี JR Henashi และสถานี JR Senjōjiki ไปบนทางรถไฟสาย Gonō ผืนทะเลทอดยาวไปไกลสุดขอบฟ้า ยิ่งเมื่อประกอบกับหินทรงขรุขระที่ก่อตัวเป็นแนวชายฝั่งแล้วภาพทั้งหมดก็กลายเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตา
รถไฟ Resort Shirakami บนทางรถไฟสาย Gonō (เครดิตภาพ: JR East)
ถ้าคุณอยากไปสนุกกับการท่องเที่ยวด้วยรถไฟบนทางรถไฟสาย Gonō แนะนำให้เพิ่มรถไฟ Resort Shirakami เข้าไปในแผนการเที่ยวได้เลย เพราะไม่เพียงแต่ผู้โดยสารจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่งดงามตระการตาของทะเลจากบนรถไฟเท่านั้น แต่ยังจะได้ชื่นชมการออกแบบภายในที่เก๋ไก๋และสนุกกับโชว์การแสดงต่างๆ บนรถไฟด้วย การชมวิวสวยๆ จะดียิ่งขึ้นอีกบนรถไฟที่มอบความสุขให้ผู้โดยสารแบบนี้
⑥ ทางรถไฟสาย Kitakami (北上線)
พื้นที่: สถานี JR Wakasennin (JR和賀仙人駅) ↔ สถานี JR Yudakinshūko (JRゆだ錦秋湖駅)
บริหารโดย: JR East
ทางรถไฟสาย Kitakami วิ่งข้ามทะเลสาบคินชูในฤดูใบไม้ร่วง (เครดิตภาพ: 岩手県観光協会)
ทางรถไฟสาย Kitakami ทอดยาวผ่านจังหวัดอิวาเตะ (岩手県) และอาคิตะ และขณะที่รถไฟวิ่งผ่านพื้นที่ภูเขาในภูมิภาคนี้ ผู้โดยสารก็จะได้พบกับวิวที่สวยงามระหว่างเส้นทาง
ทางรถไฟสาย Kitakami วิ่งข้ามแม่น้ำคินชูในฤดูหนาว (เครดิตภาพ: 西和賀町 / 橋本翔也様)
จากสถานี JR Wakasennin ถึงสถานี JR Yudakinshūko ทางรถไฟจะผ่านทะเลสาบคินชู (錦秋湖) ซึ่งเป็นทะเลสาบฝีมือมนุษย์ที่สร้างขึ้นโดยเขื่อนยูดะ (Yuda Dam) บนแม่น้ำวางะ (Waga River) ในฤดูใบไม้ร่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงต้นถึงปลายเดือนตุลาคม ทะเลสาบจะล้อมรอบไปด้วยเฉดสีแดงและทองของใบไม้แดง และในฤดูหนาวจะปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลนที่ดูราวกับต้องมนตร์
⑦ ทางรถไฟสาย Ban’etsu West (磐越西線)
พื้นที่: สถานี JR Yamato (JR山都駅) ↔ สถานี JR Hideya (JR日出谷駅)
บริหารโดย: JR East
ทางรถไฟสาย Ban’etsu West ที่พาดผ่านแม่น้ำอางาโนะ (Image credit: 新潟県観光協会)
ทางรถไฟสาย Ban’etsu West ทอดยาวผ่านจังหวัดนีงาตะ (新潟県) และฟุกุชิมะ (福島県) ที่มีชื่อเสียงเรื่องเส้นทางที่มีวิวสวยงาม โดยมีแม่น้ำที่สงบนิ่งและภูเขาที่สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แม่น้ำอางาโนะ (阿賀野川 Agano River) ที่ทอดตัวไปตามทางรถไฟ ซึ่งผู้โดยสารจะได้เห็นวิวสวยๆ จากบนรถไฟเลย
ภูเขาที่อยู่ไกลๆ ตามแนวเส้นทางรถไฟสาย Ban’etsu West (เครดิตภาพ: やえざくら / PIXTA)
ระหว่างสถานี JR Yamato และสถานี JR Hideya รถไฟจะวิ่งผ่านแม่น้ำที่คดเคี้ยวหลายคร้ัง ซึ่งผู้โดยสารสามารถชมวิวอย่างใกล้ชิดได้จากหน้าต่างรถไฟ และขณะเดียวกันก็จะได้เห็นวิวของภูเขาสวยงามที่อยู่ไกลออกไปในระหว่างที่เดินทางไปบนทางรถไฟสายนี้ด้วย น้ำในแม่น้ำที่นิ่งสงบประกอบกับทิวทัศน์สีเขียวขจีโดยรอบเป็นภาพที่น่ามองมากเป็นพิเศษ และรถไฟที่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ เป็นจังหวะก็รู้สึกผ่อนคลายและช่วยเยียวยาทุกโสทประสาทได้เป็นอย่างดี
รถไฟอีกขบวนบนทางสายนี้ที่ชวนให้หวนนึกถึงอดีตคือ SL Banetsu Monogatari ที่จะทำให้ผู้โดยสารได้ท่องเที่ยวไปตามเส้นทางรถไฟนี้บนรถไฟหัวรถจักรไอน้ำ การได้สัมผัสกับธรรมชาติในขณะที่อยู่บนอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เป็นประสบการณ์ไม่เหมือนใครที่ทุกคนควรลองหากต้องการสัมผัสกับประสบการณ์การนั่งรถไฟที่มีเอกลักษณ์ในญี่ปุ่น
⑧ ทางรถไฟสาย Tadami (只見線)
พื้นที่: สถานี JR Aizu-Nishikata (JR会津西方駅) ↔ สถานี JR Aizu-Kawaguchi (JR会津川口駅)
บริหารโดย: JR East
ทางรถไฟ Tadami บนสะพานข้ามแม่น้ำทาดามิหมายเลข 1 ในฤดูหนาว (บน), ฤดูใบไม้ร่วง (ซ้ายล่าง) และฤดูร้อน (ขวาล่าง) (เครดิตภาพ: kenko hoshi / JNTO (บน), ครบเครื่องเรื่องญี่ปุ่น (ซ้ายล่าง), 福島県観光物産交流協会 (ขวาล่าง))
ทางรถไฟสาย Tadami เป็นอีกหนึ่งเส้นทางรถไฟที่มีวิวสวยงามในญี่ปุ่นตะวันออก ซึ่งทอดยาวผ่านจังหวัดฟุกุชิมะ (福島県) และนีงาตะ (新潟県) บนเส้นทางสายนี้ ผู้โดยสารจะเดินทางผ่านหนึ่งในทิวทัศน์รถไฟที่สวยงามมากที่สุดในญี่ปุ่น
ระหว่างสถานี JR Aizu-Nishikata และสถานี JR Aizu-Hinohara (JR会津桧原駅) รถไฟจะวิ่งผ่านสะพานข้ามแม่น้ำทาดามิหมายเลข 1 (第一只見川橋梁) ที่อยู่สูงเหนือแม่น้ำทาดามิ ผู้ที่ชื่นชอบรถไฟอาจจะคุ้นเคยกับทิวทัศน์ของรถไฟที่กำลังข้ามสะพานโค้งท่ามกลางหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีหรือหิมะสีขาวโพลน และข่าวดีสำหรับพวกเขาคือวิวดังกล่าวอยู่ในส่วนนี้ของเส้นทาง อีกทั้งผู้คนมากมายจากทั่วโลกจะไปรวมตัวกันที่จุดชมวิว ที่สามารถจับภาพวิวมุมนี้ได้จากระยะไกล ดังนั้นถ้ามีโอกาสคุณก็ไม่ควรพลาดที่จะเดินทางมาที่นี่ด้วยตัวเอง
วิวจากจุดชมวิวคาเนยามะฟุเรไอ (เครดิตภาพ: photoAC)
อีกหนึ่งสถานที่ที่สวยงามบนทางรถไฟสาย Tadami อยู่ห่างจากสถานี JR Aizu-Kawaguchi เล็กน้อยในระยะที่สามารถเดินถึงได้ เพียงเดินไปประมาณ 800 เมตรจากสถานี คุณจะพบกับจุดชมวิวคาเนยามะฟุเรไอ (かねやまふれあい広場 Kaneyma Fureai Viewpoint) ที่สามารถชมวิวของรถไฟขณะวิ่งผ่านแม่น้ำโดยมีภูเขาเป็นฉากหลัง ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามราวกับภาพวาดก็ไม่ปาน และยังเป็นอีกจุดหนึ่งบนทางรถไฟสาย Tadami ที่คุณไม่ควรพลาด
⑨ ทางรถไฟสาย Ōito (大糸線)
พื้นที่: สถานี JR Inao (JR稲尾駅) ↔ สถานี JR Hakuba-Ōike (JR白馬大池駅)
บริหารโดย: JR East
ทะเลสาบคิซากิในฤดูใบไม้ร่วง (บน, ซ้ายล่าง) และฤดูหนาว (ขวาล่าง) ที่สถานี JR Inao (เครดิตภาพ: JR East / Kobori (บน), JR East / Carissa Loh (ล่าง))
ทางรถไฟสาย Ōito เป็นเส้นทางที่วิ่งผ่านภูมิภาคชินเอ็ตสึ (信越 Shinetsu) และคนส่วนใหญ่อาจไม่รู้มาก่อนว่าเส้นทางนี้ตัดผ่านพื้นที่ที่ธรรมชาติที่สวยงามที่สุดในภูมิภาคด้วย
ภูเขาสามลูกแห่งฮาคุบะในฤดูร้อน (ซ้าย) และฤดูหนาว (ขวา), ซึ่งเห็นได้อยู่ด้านหลังทางรถไฟสาย Ōito (เครดิตภาพ: JR East Nagano Branch (ซ้าย), alps / PIXTA (ขวา))
ผู้โดยสารบนรถไฟในของทางรถไฟสาย Ōito จะได้เห็นวิวของสามทะเลสาบนิชินะ (仁科三湖 Nishina Three Lakes) ซึ่งได้แก่ ทะเลสาบอาโอกิ (Lake Aoki) ทะเลวาบนากัตสึนะ (Lake Nakatsuna) และทะเลสาบคิซากิ (Lake Kizaki) ยิ่งไปกว่านั้นในวันที่ฟ้าปลอดโปร่ง ผู้โดยสารจะสามารถมองเห็นภูเขาสามลูกแห่งฮาคุบะ (白馬三山 Hakuba Three Mountains) ที่อยู่ไกลออกไปได้ ซึ่งเป็นวิวที่สวยงามเกินบรรยายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว และผู้โดยสารยังสามารถขึ้นรถไฟ Resort View Furusato เพื่อเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันน่าทึ่งของนากาโนะและผ่อนคลายไปกับบรรยากาศในชนบทได้อีกด้วย
⑩ ทางรถไฟสาย Shinonoi (篠ノ井線)
พื้นที่: สถานี JR Inariyama (JR稲荷山駅) ↔ สถานี JR Obasute (JR姨捨駅)
บริหารโดย: JR East
ทางรถไฟสาย Shinonoi ยามค่ำคืน (เครดิตภาพ: JR East Nagano Branch)
มีทางรถไฟอีกสายหนึ่งในนากาโนะที่มาพร้อมกับวิวอันน่าตื่นตาตื่นใจถึงขั้นที่เป็น “หนึ่งในสามจุดชมวิวจากหน้าต่างรถไฟที่ดีที่สุด” (日本三大車窓 Nihon Sandai-shasō) ของญี่ปุ่น ผู้โดยสารบนทางรถไฟสาย Shinonoi จะได้เห็นวิวพาโนรามาของที่ราบเซ็นโคจิในขณะที่รถไฟเคลื่อนตัวเข้าสู่สถานี JR Obasute และยังสามารถลงที่สถานีนี้เพื่อไปเพลิดเพลินกับวิวอันสวยงามที่กว้างสุดขอบฟ้าได้อีกด้วย
ทิวทัศน์มุมกว้างจากชานชาลาสถานี JR Obasute (ซ้าย) และนาข้าว (ขวา) ที่เห็นได้จากสถานี (เครดิตภาพ: photoAC (ซ้าย), 信州千曲観光局 (ขวา))
ผู้โดยสารที่สถานี JR Obasute สามารถมองเห็นนาข้าวและเมืองชิคุมะที่อยู่ไกลออกไปได้ นี่คือหนึ่งในสถานที่โปรดของฉันเมื่อพูดถึงเส้นทางรถไฟที่มีวิวสวยงาม และฉันก็อยากจะกลับมาที่นี่เพื่อชมวิวอีกครั้ง ที่ยอดเยี่ยมสุดๆ เลยก็คือ รถไฟ Resort View Furusato จะจอดที่สถานี JR Obasute เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถลงไปเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของรถไฟได้ถึงสองแบบในคราวเดียว
พื้นที่ญี่ปุ่นตอนกลาง
⑪ Tōkaidō Shinkansen (東海道新幹線)
พื้นที่: สถานี JR Mishima (JR三島駅) ↔ สถานี JR Shin-Fuji (JR新富士駅), สถานี JR Hamamatsu (JR浜松駅) ↔ สถานี JR Toyohashi (JR豊橋駅)
บริหารโดย: JR Central
Tōkaidō Shinkansen และภูเขาไฟฟูจิที่อยู่เบื้องหลัง (เครดิตภาพ: JR Central)
ทางรถไฟวิวสวยเส้นทางต่อไปน่าจะเป็นหนึ่งในทิวทัศน์รถไฟที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น นั่นคือเส้นทางที่ชินกันเซ็นวิ่งผ่านโดยมีภูเขาไฟฟูจิ (富士山) เด่นสง่าอยู่เบื้องหลัง ทิวทัศน์อันโดดเด่นนี้คือรถไฟ Tōkaidō Shinkansen ที่กำลังวิ่งผ่านพื้นที่ญี่ปุ่นตอนกลาง และถ้าคุณเคยเดินทางด้วยชินกันเซ็นระหว่างโตเกียวและโอซาก้า คุณอาจจะเคยเดินทางในเส้นทางนี้มาแล้วก็ได้
Tōkaidō Shinkansen ที่บริหารโดย JR Central นั้นเป็นเส้นทางชินกันเซ็นที่ถูกใช้มากที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งวิ่งไปมาระหว่างสองเมืองหลักโตเกียวและโอซาก้า รถไฟวิ่งผ่านหลายจังหวัดระหว่างทาง รวมถึงจังหวัดชิสุโอกะ (静岡県) ซึ่งในจังหวัดนี้เองที่รถไฟจะวิ่งผ่านภูเขาไฟฟูจิอันเลื่องชื่อระหว่างสถานี JR Mishima และ JR Shin-Fuji
Tōkaidō Shinkansen วิ่งตัดผ่านทะเลสาบฮามานะ (เครดิตภาพ: JR Central)
อีกส่วนหนึ่งของเส้นทางในจังหวัดชิสุโอกะที่น่าจับตามองในระหว่างที่อยู่บน Tōkaidō Shinkansen คือช่วงระหว่างสถานี JR Hamamatsu และสถานี JR Toyohashi เมื่อรถไฟวิ่งตัดผ่านทะเลสาบฮามานะ (浜名湖) ที่สวยงามราวกับภาพวาด ทะเลสาบนี้เคยเป็นทะเลสาบน้ำจืดเมื่อหลายศตวรรษก่อน แต่แผ่นดินไหวในศตวรรษที่ 15 ทำให้ทะเลสาบเชื่อมเข้ากับมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้น้ำกลายเป็นน้ำกร่อย นับจากนั้นมา ทะเลสาบแห่งนี้ก็กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาไหล สาหร่ายทะเล และหอยนางรมของญี่ปุ่นไป
ในครั้งต่อไปที่คุณเดินทางโดยรถไฟระหว่างโตเกียวและโอซาก้า อย่าลืมเตรียมกล้องถ่ายรูปไว้ให้พร้อมสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ระหว่างทางด้วยนะคะ
⑫ ทางรถไฟสาย Ōigawa Railway Ikawa (大井川鐵道井川線)
พื้นที่: สถานี Sessokyō-Onsen (接岨峡温泉駅) ↔ สถานี Okuōikojō (奥大井湖上駅)
บริหารโดย: Ōigawa Railway
ทิวทัศน์ของทางรถไฟสาย Ikawa ที่พาดผ่านแม่น้ำโออิจากมุมสูง (เครดิตภาพ: Ōigawa Railway)
เส้นทางรถไฟวิวสวยอีกสายหนึ่งอยู่ในจังหวัดชิสุโอกะ และเส้นทางนี้เองมีทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดวิวหนึ่งที่เห็นได้จากบนรถไฟ ทางรถไฟสาย Ōigawa Railway Ikawa วิ่งให้บริการในจังหวัดชิสุโอกะ เชื่อมต่อระหว่างสถานี Senzu (千頭駅) และสถานี Ikawa (井川駅) ซึ่งสถานีหลังเป็นสถานีที่อยู่สูงที่สุดในจังหวัด ณ ความสูง 636 เมตร สิ่งที่น่าทึ่งเกี่ยวกับทางรถไฟสายนี้คือทางรถไฟสายนี้เป็นเส้นทางที่ลัดเลาะไปตามหุบเขาหลายต่อหลายครั้ง ผ่านอุโมงค์กว่า 61 อุโมงค์ และแม่น้ำกว่า 51 สาย ซึ่งหนึ่งในสะพานระหว่างทางคือสะพาน Okuoi Rainbow Bridge ที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำโออิ และเชื่อมต่อกับสถานี Okuōikojō ที่ตั้งอยู่ตรงกลางสะพาน
ทางรถไฟสาย Ikawa ที่พาดข้ามแม่น้ำโออิ (เครดิตภาพ: photoAC)
ทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตารอบๆ สถานีและบนทางรถไฟ โดยเฉพาะวิวเนินเขาดดยรอบและแม่น้ำเบื้องล่างนั้นดึงดูดให้ผู้คนเดินทางมาเยือนตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้โดยสารสามารถชมวิวอันน่าตื่นตาได้จากบนรถไฟและสถานีรถไฟ
พื้นที่ญี่ปุ่นตะวันตก
⑬ ทางรถไฟสาย Himi (氷見線)
พื้นที่: สถานี JR Etchū-Kokubu (JR越中国分駅) ↔ สถานี JR Amaharashi (JR雨晴駅)
บริหารโดย: JR West
วิวจากสถานี JR Amaharashi บนทางรถไฟสาย Himi (เครดิตภาพ: まちゃー / PIXTA)
ถ้าคุณหลงใหลทิวทัศน์ของทะเล ขอแนะนำทางรถไฟสาย Himi ที่บริหารโดย JR West ทางรถไฟสายนี้อยู่ในจังหวัดโทยามะ (富山県) ซึ่งสามารถมองเห็นวิวของอ่าวโทยามะ (富山湾 Toyama Bay) ที่มีชื่อเสียงเรื่องน้ำทะเลสีครามและเป็นขุมทรัพย์ของอาหารทะเลได้อย่างชัดเจน
วิวอันงดงามของภูเขาทาเตยามะจากชายฝั่งอามาฮาราชิ (เครดิตภาพ: とやま観光推進機構)
ทิวทัศน์ที่ดีที่สุดซึ่งผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินได้ในขณะที่อยู่บนทางรถไฟสายนี้อยู่ในช่วงระหว่างสถานี JR Etchū-Kokubu และสถานี JR Amaharashi ซึ่งสามารถมองเห็นวิวชายฝั่งอามาฮาราชิ (雨晴海岸) ได้แบบเต็มตา ซึ่งเป็นวิวชายฝั่งที่ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินได้จากบนรถไฟ และที่ดีที่สุดคือ เรายังจะได้เห็นภูเขาทาเตยามะอันงดงามอยู่ไกลๆ ในวันที่อากาศดีอีกด้วย ลองนึกภาพของเทือกเขาที่ยอดปกคลุมด้วยหิมะเป็นฉากหลังกับอ่าวที่สวยงามอยู่ด้านหน้าดูสิคะ น่าทึ่งไปเลยใช่ไหมล่ะ!
⑭ ทางรถไฟสายหลัก San’in (山陰本線)
พื้นที่: สถานี JR Orii (JR折居駅) ↔ สถานี JR Miho-Misumi (JR三保三隅駅)
บริหารโดย: JR West
ทางรถไฟสายหลัก San’in ที่อยู่ติดกับทะเลญี่ปุ่น (เครดิตภาพ: JR West)
ในพื้นที่ทางตะวันตกของภูมิภาคชูโกกุ (中国地方) มีทางรถไฟที่วิ่งไปตามชายฝั่งตอนเหนือชื่อว่าทางรถไฟสายหลัก San’in ซึ่งเป็นทางรถไฟที่มีระยะทางยาว 600 กม. ที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองเกียวโตและจังหวัดยามากุจิ (山口県)
ทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลญี่ปุ่นบนทางรถไฟสายหลัก San’in (เครดิตภาพ: ホーリ / PIXTA)
ระยะทางส่วนใหญ่ของทางรถไฟสายนี้อยู่เลียบไปกับชายหาดในจังหวัดชิมาเนะ (島根県) ซึ่งผู้โดยสารบนรถไฟบนเส้นทางส่วนนี้จะได้เห็นวิวทะเลญี่ปุ่นอย่างเต็มตาแบบไม่มีอะไรมาขวางกั้น โดยเส้นทางในช่วงระหว่างสถานี JR Orii และสถานี JR Miho-Misumi จะวิ่งใกล้กับทะเลมากเป็นพิเศษ และคนที่อยู่บนรถไฟจะรู้สึกราวกับกำลังว่ารถไฟกำลังลอยอยู่เหนือน้ำเลยทีเดียว!
⑮ ทางรถไฟสายหลัก San’yō (山陽本線)
พื้นที่: สถานี JR Yū (JR由宇駅) ↔ สถานี JR Ōbatake (JR大畠駅)
บริหารโดย: JR West
ทางรถไฟสายหลัก San’yō และทะเลเซโตะตอนใน (เครดิตภาพ: TAKASHI KARAKI)
ทางรถไฟสายหลัก San’yō เป็นทางรถไฟสายหลักที่เลียบไปตามชายฝั่งทางตอนใต้ของภูมิภาคชูโกกุ ทอดยาวตั้งแต่จังหวัดเฮียวโกะ (兵庫県) ไปจนถึงจังหวัดฟุกุโอกะ (福岡県) ในขณะที่ทางรถไฟสายหลัก San’in ตัดเลียบไปตามชายฝั่งทางตอนเหนือของภูมิภาค ทางรถไฟสายหลัก San’yō ก็เลียบไปตามชายฝั่งทางตอนใต้ติดกับทะเลเซโตะตอนใน (瀬戸内海)
เส้นทางนี้ตัดผ่านหลายจังหวัด ซึ่งรวมถึงจังหวัดยามากุจิ ในระหว่างที่รถไฟวิ่งไปตามชายฝั่งในจังหวัดนี้ ผู้โดยสารบนรถไฟจะได้เพลิดเพลินไปกับวิวอันน่าทึ่งของทะเลเซโตะในและเกาะแก่งน้อยใหญ่ต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงระหว่างสถานี JR Yu และสถานี JR Ōbatake ที่รถไฟจะวิ่งเข้าไปใกล้ทะเลมากเป็นพิเศษ และผู้โดยสารจะได้เห็นวิวมุมกว้างที่จะทำให้ตื่นตะลึงจนแทบหยุดหายใจ
รถไฟ TWILIGHT EXPRESS MIZUKAZE บนทางรถไฟสายหลัก San’yō (เครดิตภาพ: 智 / PIXTA)
รู้หรือไม่ว่าคุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวของทะเลเซโตะตอนในจากบนรถไฟหรูหราได้ด้วยนะ JR West ยังเป็นผู้บริหารรถไฟ TWILIGHT EXPRESS MIZUKAZE (TWILIGHT EXPRESS 瑞風) ที่ผู้โดยสารจะรู้สึกราวกับอยู่ในโรงแรมไฮคลาสที่วิ่งอยู่บนรางรถไฟเลยทีเดียว รถไฟวิ่งบนทางรถไฟทั้งทางรถไฟสายหลัก San’yō และทางรถไฟสายหลัก San’in ทำให้ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพที่สวยงามบนรถไฟที่ตกแต่งอย่างหรูหราด้วย
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถไฟได้ที่นี่
พื้นที่ชิโกกุ
⑯ ทางรถไฟสาย Seto-Ōhashi (瀬戸大橋線)
พื้นที่: สถานี JR Kojima (JR児島駅) ↔ สถานี JR Utazu (JR宇多津駅)
บริหารโดย: JR West / JR Shikoku
ทางรถไฟสาย Seto-Ōhashi ที่วิ่งขนานไปกับสะพานเซโตะโอฮาชิ (Image credit: photoAC)
ถัดไป เรามุ่งลงใต้สู่เกาะชิโกกุ (四国) เราสามารถเดินทางจากฮอนชูไปเกาะนี้โดยทางรถไฟสาย Seto-Ōhashi ซึ่งประกอบด้วยทางรถไฟสามสาย ได้แก่ สาย Uno (宇野線) สาย Honshi-Bisan (本四備讃線) และสาย Yosan ที่บริหารร่วมกันโดย JR West และ JR Shikoku ทางรถไฟสายนี้วิ่งข้ามทะเลเซโตะตอนโดยวิ่งบนสะพานเซโตะโอฮาชิ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก (瀬戸大橋)
ทิวทัศน์ของทะเลเซโตะตอนในจากบนสะพาน (เครดิตภาพ: photoAC)
ระหว่างสถานี JR Kojima และสถานี JR Utazu ทางรถไฟจะวิ่งใต้สะพานระหว่างสองภูมิภาค ผู้โดยสารจะได้เพลิดเพลินไปกับความรู้สึกอันน่าอัศจรรย์ของการข้ามทะเลขณะอยู่บนรถไฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นทะเลอยู่เบื้องล่าง ยิ่งไปกว่านั้น ระยะทางระหว่างสถานียังยาวถึง 17 กม. และรถไฟจะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการข้ามทะเล ผู้โดยสารจึงมีเวลาเหลือเฟือในการเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์
ถ้าคุณคิดว่าการได้เพลิดเพลินกับวิวทะเลในมุมกว้างจากบนรถไฟเพียงอย่างเดียวก็เยี่ยมมากแล้ว ลองคิดดูว่าการได้ข้ามทะเลบนรถไฟจะสุดยอดขนาดไหน มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยายซึ่งต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองเท่านั้นถึงจะเข้าใจ!
⑰ ทางรถไฟสาย Dosan (土讃線)
พื้นที่: สถานี JR Iyaguchi (JR祖谷口駅) ↔ สถานี JR Ōboke (JR大歩危駅)
บริหารโดย: JR Shikoku
ทางรถไฟสาย Dosan เหนือหุบเขาอิยะ (เครดิตภาพ: JR Shikoku)
ผู้ที่ไปเยือนชิโกกุจะได้ดื่มด่ำกับความสวยงามของหุบเขาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ซึ่งการเดินทางด้วยรถไฟก็คือวิธีหนึ่งในการเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพเหล่านี้ ทางรถไฟสาย Dosan เป็นเส้นทางที่ตัดผ่านกลางเกาะ และเชื่อมระหว่างจังหวัดคางาวะและโคจิ ทางรถไฟสายนี้เองคือเส้นทางที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติท่ามกลางหุบเขาบนเกาะแห่งนี้
ส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟตัดผ่านแม่น้ำโยชิโนะ และช่วงระหว่างสถานี JR Iyaguchi และสถานี JR Ōboke จะผ่านหุบเขาอิยะ (祖谷渓) ซึ่งเป็นหุบเขาสวยงามที่ขึ้นชื่อเรื่องภูเขาสูงชันและช่องเขาที่ลึก นอกจากนี้ยังตัดผ่านหุบเขาโอโบเกะ (大歩危) ที่มีลักษณะเป็นเนินลาดสูงชัดอีกด้วย ที่นี่คือสถานที่ยอดนิยมสำหรับการล่องเรือชมทิวทัศน์และการเล่นล่องแก่ง ดังนั้นหากคุณเดินทางในเส้นทางนี้ก็ขอแนะนำให้ลองไปเที่ยวดูค่ะ
รถไฟ Shikoku Mannaka Sennen Monogatari (เครดิตภาพ: JR Shikoku)
หากคุณอยากลองสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวผ่านหุบเขาของชิโกกุบนรถไฟหรู ขอแนะนำ Shikoku Mannaka Sennen Monogatari รถไฟชมวิวแบบหรูหราที่บริหารโดย JR Shikoku ผู้โดยสารจะได้รับการบริการอันน่าทึ่งในขณะที่เพลิดเพลินไปกับวิวสวยๆ ด้านนอกผ่านหน้าต่างบานใหญ่ รถไฟจะวิ่งให้บริการเพียง 1 รอบต่อวัน จากสถานี JR Tadotsu ถึงสถานี JR Ōboke เนื่องจากมีรอบวิ่งและที่นั่งจำกัดจึงขอแนะนำให้สำรองที่นั่งไว้ล่วงหน้าก่อนการเดินทาง
คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถไฟขบวนนี้และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจอื่นๆ ในชิโกกุได้ที่นี่
⑱ ทางรถไฟสาย Yosan (予讃線)
พื้นที่: สถานี JR Iyo-Kaminada (JR伊予上灘駅) ↔ สถานี JR Kitanada (JR喜多灘駅)
บริหารโดย: JR Shikoku
วิวจากสถานี JR Shimonada บนทางรถไฟสาย Yosan (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ถ้าต้องการชมทิวทัศน์ของทะเลเซโตะตอนในอีกมุมหนึ่ง คุณสามารถเดินทางไปตามทางรถไฟสาย Yosan ที่ยาวเกือบ 300 กม. โดยทอดยาวระหว่างจังหวัดโทคุชิมะและจังหวัดเอฮิเมะได้ ทางรถไฟนี้บริหารโดย JR Shikoku และเส้นทางส่วนใหญ่ขนานไปกับทะเลเซโตะตอนใน และมีส่วนหนึ่งที่ผู้โดยสารสามารถชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งได้จากรถไฟและจากสถานีรถไฟบางแห่ง
ทิวทัศน์มุมกว้างของทะเลเซโตะตอนในจากสถานี JR Shimonada (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ทางรถไฟจะอยู่ติดกับทะเลเซโตะตอนในมากๆ ในช่วงระหว่างสถานี JR Iyo-Kaminada และสถานี JR Kitanada ในเอฮิเมะ ผู้โดยสารบนรถไฟจะมองเห็นทะเลได้เต็มตาแบบไร้สิ่งกีดขวางใดๆ กลุ่มคนรักรถไฟและช่างภาพจำนวนไม่น้อยต่างมาที่นี่เพื่อชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างน่าทึ่ง ซึ่งมักจะได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟที่มีวิวสวยงามที่สุดของญี่ปุ่น ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยวิวที่สวยงามนี้ ทำให้ สถานี JR Shimonada (JR下灘駅) ที่อยู่ติดกับสถานี JR Iyo-Kaminada ยังเป็นสถานีอันโดดเด่นที่ถูกใช้เป็นภาพในโปสเตอร์โปรโมทตั๋วรถไฟ Seishun 18 อีกด้วย
พื้นที่คิวชู
⑲ ทางรถไฟสาย Ōmura (大村線)
พื้นที่: สถานี JR Sonogi (JR彼杵駅) ↔ สถานี JR Matsubara (JR松原駅)
บริหารโดย: JR Kyushu
วิวทะเลระหว่างทางรถไฟสาย Ōmura (เครดิตภาพ: 長崎県観光連盟)
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เรามุ่งหน้าสู่ภูมิภาคคิวชูที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ ซึ่งมีทางรถไฟสายหนึ่งที่มาพร้อมกับทิวทัศน์อันน่าทึ่ง นั่นคือ ทางรถไฟสาย Ōmura ในจังหวัดนางาซากิ (長崎県) ที่บริหารโดย JR Kyushu เชื่อมต่อระหว่างสถานี JR Haiki (JR早岐駅) ในซาเซโบะ กับสถานี JR Isahaya (JR諫早駅) ในอิซาฮายะ ซึ่งระหว่างทางมีทิวทัศน์ที่คนรักทะเลจะต้องหลงรัก
ทิวทัศน์จากชานชาลาของสถานี JR Chiwata (เครดิตภาพ: 長崎県観光連盟)
ผู้โดยสารบนรถไฟสายนี้จะมองเห็นอ่าวโอมูระ (大村湾) แบบเปิดโล่งระหว่างสถานี JR Sononogi และสถานี JR Matsubara และที่ดียิ่งไปกว่านั้นคือ วิวจากสถานี JR Chiwata (JR千綿駅) นั้นเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก ทางรถไฟสายนี้ค่อนข้างเงียบสงบ ทำให้ผู้โดยสารสามารถชมวิวของอ่าวและเพลิดเพลินกับบรรยากาศอันเงียบสงบจากบนรถไฟได้อย่างเต็มอิ่ม
⑳ ทางรถไฟสาย Hisatsu (肥薩線)
พื้นที่: สถานี JR Okoba (JR大畑駅) ↔ สถานี JR Masaki (JR真幸駅)
บริหารโดย: JR Kyushu
ทิวทัศน์ของยาตาเกะโกเอะจากทางรถไฟสาย Hisatsu (เครดิตภาพ: shira / PIXTA)
มาถึงทางรถไฟชมวิวเส้นทางสุดท้ายของเรา นั่นคือทางรถไฟสาย Hisatsu ที่บริหารโดย JR Kyushu ทางรถไฟนี้ครอบคลุมจังหวัดคุมาโมโตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า
รู้หรือไม่? คุณสามารถพบกับ 1 ใน “ 3 ทิวทัศน์ที่ดีที่สุดจากหน้าต่างรถไฟ” ได้บนทางรถไฟสายนี้ ที่หนึ่งคือทิวทัศน์ทิวทัศน์ของที่ราบเซนโคจิ (Zenkoji Plains) ที่สถานี JR Obasute ซึ่งฉันได้กล่าวถึงไปในบทความก่อนหน้านี้ อีกที่หนึ่งคือทิวทัศน์ของยาตาเกะโกเอะ (矢岳越え Yatake-goe) เส้นทางที่มีทัศนียภาพอันสวยงามตระการตาของทิวเขาคิริชิมะและที่ราบสูงเอบิโนะ ซึ่งสามารถมองเห็นวิวนี้ได้บนทางรถไฟสาย Hisatsu ระหว่างสถานี JR Yatake (JR矢岳駅) และสถานี JR Masaki และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ ในวันที่อากาศแจ่มใส ผู้โดยสารบนรถไฟสามารถมองเห็นซากุระจิมะ (Sakurajima) และไคมอนดาเกะ (Kaimondake) ที่อยู่ไกลออกไปได้อีกด้วย
จุดสับรางรถไฟที่สถานี JR Okoba (Image credit: tetsuo1338 / PIXTA)
ยังมีอีกเซอร์ไพรส์หนึ่งสำหรับเหล่าคนรักรถไฟทั้งหลาย นั่นคือจุดสับรางรถไฟที่สถานี JR Okoba ซึ่งอยู่ติดกับสถานี JR Yatake โดยทางรถไฟสาย Hisatsu อยู่บนทางลาดชันซึ่งทำให้รถไฟวิ่งขึ้นเนินได้ยาก จึงมีการทำรางรถให้เป็นรูปคล้ายตัว ‘Z’ หรือที่เรียกว่า Switchback เพื่อให้รถไฟสามารถถอยหลังกลับก่อนที่จะออกเดินทางต่อได้ ช่วยให้รถไฟสามารถไต่ขึ้นทางลาดชันได้ง่ายขึ้น ดังนั้นในระหว่างที่คุณกำลังเพลิดเพลินกับทิวทัศน์โดยรอบที่สวยงาม ก็อย่าลืมชื่นชมผลงานอันชาญฉลาดนี้ด้วยนะคะ
ส่งท้าย
ด้วยทางรถไฟที่มีอยู่ทั่วญี่ปุ่น ทำให้มีหลายเส้นทางเลยทีเดียวที่มาพร้อมกับทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของประเทศไม่ว่าวิวทะเลหรือภูเขา นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ว่าทำไมการเดินทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่นจึงสนุกมาก ลองออกไปสำรวจเส้นทางรถไฟเหล่านี้และค้นหาเส้นทางอื่นๆ ในครั้งหน้าที่คุณเดินทางไปญี่ปุ่นดูสิ เพราะในการนั่งรถไฟจะมีสิ่งใหม่ๆ ให้ตั้งตารอและมองหาระหว่างการเดินทางเสมอค่ะ
(เคล็ดลับ: หากคุณวางแผนที่จะไปสำรวจเส้นทางรถไฟในโทโฮคุหรือนากาโนะ/นีงาตะตามที่เราแนะนำไปด้านบน คุณสามารถใช้ตั๋วโดยสาร JR East Pass ด้านล่างได้!)
JR EAST PASS (Tohoku area)
ตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) และพื้นที่ที่ใช้งานได้ (เครดิตภาพ: JR East)
JR EAST PASS (Tohoku area) เป็นตั๋วเดินทางราคาย่อมเยาที่ใช้ขึ้นรถไฟได้ไม่จำกัดตามเส้นทางรถไฟ JR East รวมถึงชินกันเซ็นภายในระยะเวลา 5 วันติดกัน ตั๋วนี้มีราคาเพียง 20,000 เยน จึงถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถไฟ คุณยังสามารถสำรองที่นั่งรถไฟชินกันเซ็น รถไฟด่วนพิเศษบางขบวน และ Joyful Train ออนไลน์ได้ฟรี โดยจองล่วงหน้าได้นานสุดถึง 1 เดือน ที่นี่ ตั๋วสามารถใช้ได้กับประตูตรวจตั๋วอัตโนมัติ และผู้ที่ถือหนังสือเดินทางต่างชาติที่พำนักในญี่ปุ่นมีสิทธิ์ใช้ตั๋วนี้ได้เช่นกัน
JR EAST PASS (Nagano, Niigata area)
ตั๋ว JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) และพื้นที่ที่ใช้งานได้ (เครดิตภาพ: JR East)
JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) เป็นตั๋วเดินทางราคาย่อมเยาที่ใช้ขึ้นรถไฟได้ไม่จำกัดตามเส้นทางรถไฟ JR East (รวมถึงชินกันเซ็น) ภายในระยะเวลา 5 วันติดกัน ตั๋วนี้มีราคาเพียง 18,000 เยน จึงช่วยประหยัดค่าเดินทางได้อย่างมากหากคุณเดินทางโดยรถไฟในภูมิภาคนี้เป็นบริเวณกว้าง คุณยังสามารถสำรองที่นั่งรถไฟหัวกระสุน รถไฟด่วนพิเศษบางขบวน และ Joyful Train ออนไลน์ได้ฟรี โดยจองล่วงหน้าได้นานสุดถึง 1 เดือน ที่นี่ ตั๋วสามารถใช้ได้กับประตูตรวจตั๋วอัตโนมัติ และผู้ที่ถือหนังสือเดินทางต่างชาติที่พำนักในญี่ปุ่นมีสิทธิ์ใช้ตั๋วนี้ได้เช่นกัน
เครดิตภาพส่วนหัว: (จากซ้ายบนตามเข็มนาฬิกา) photoAC, kenko hoshi / JNTO, Hokkaido Railway Company, JR West
Translated by ANNGLE